ตามที่ได้มีการประกาศเปิดรับสมัครตั้งแต่ 20 มีนาคม ถึง 20 เมษายน 2566
ประกาศผลรายชื่อผู้ผ่านการประเมินพื้นที่เพาะปลูกข้าวสรรพสี
ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการสร้างศิลปะบนผืนนาด้วยข้าวสรรพสี ปีที่ 1 ดังนี้
ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2566
- ว่าที่ ร.ต.ธเนศ แซวหลี (อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่)
- กลุ่มวิสาหกิจท่องที่ยวโดยชัมชนโขกู้โส่ (อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน)
- คุณ ไมตรี แกเกิด (อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน)
- คุณ ธันยพงศ์ ใจคำ (อ.เทิง จ.เชียงราย)
- คุณ อมรา เมฆนันทไพศิฐ (อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ)
- คุณ กิตติ สิงหาปัด (อ.เมือง จ.ขอนแก่น)
- อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ ม.เกษตร วิทยาเขตสกลนคร (อ.เมือง จ.สกลนคร)
- คุณ ทิพธิดา สุขุม (อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา)
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์หนองสูงใต้ (อ.หนองสูงใต้ จ.มุกดาหาร)
- คุณ นิ่มอนงค์ แก้วไพศาล (อ.เมือง จ.นครพนม)
- คุณ วิทยา เพชรมาลัยกุล (อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี)
- คุณ ไตรศักดิ์ ปัทมรัฐจิรนนท์ (อ.สรรพยา จ.ชัยนาท)
- สวนเบญจกิติ สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม (กรุงเทพมหานคร)
- คุณ บังอร ผงผ่าน ( อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ)

เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
คุณสมบัติของเกษตรกรและหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ
- มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย
- เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเพื่อสังคม ที่มีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
- มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมาย หรือเป็นผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดิน
- พื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ หรือพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากหน่วยงานที่มีสิทธิ์รับรอง โดยชื่อที่ระบุในเอกสารสิทธิ์จะต้องเป็นชื่อเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ หรือมีเอกสารรับรองจากเจ้าของเอกสารสิทธิ์
- ทำกิจกรรมทางการเกษตรตามระบบเกษตรอินทรีย์
- เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมหรือเรียนรู้ได้สะดวก
- สามารถเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์แบบประณีตเป็นรูปแบบงานศิลปะได้
- มีแหล่งน้ำเพียงพอตลอดฤดูกาลเพาะปลูก
- สามารถปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยแรงงานคนได้
- มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวเป็นแปลงเดียวกันประมาณ 3 - 5 ไร่
- สามารถเพาะปลูกข้าวในเดือนกันยายน พ.ศ.2566 และเก็บเกี่ยวเดือนมกราคม พ.ศ.2567 ได้ โดยใช้งบประมาณของเกษตรกรเอง
- มีช่วงเวลาที่อากาศมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศาเซลเซียส ยาวนานต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน
- เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นที่ 1 แล้ว พื้นที่ที่ได้รับคะแนนประเมินสูงสุด 5 อันดับแรกจะได้รับการส่งเสริมให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ข้าวสรรพสีและข้าวโภชนาการสูงของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กิจกรรมและแนวทางปฏิบัติ
- ประกาศเงื่อนไข คุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการทางเว็บไซต์ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว https://dna.kps.ku.ac.th/ เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/Rice.sci.center
- ผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้ร่วมวางแผนการเพาะปลูกกับทีมนักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว
- การสนับสนุนจากโครงการ
3.1 เมล็ดพันธุ์ข้าวสรรพสีในอัตรา 2 กก./ไร่
3.2 คำแนะนำตั้งแต่การวางแผนการเพาะปลูกจนถึงการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว
3.3 การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักอย่างกว้างขวาง
3.4 สารชีวภัณฑ์ในการควบคุมกำจัดโรคและแมลงศัตรูข้าว
3.5 การส่งเสริมให้เป็นเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ข้าวสรรพสีและข้าวโภชนาการสูงของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
0851815363

นักธุรกิจท่านใดที่สนใจ จับคู่ธุรกิจ (Business Matching)กับกลุ่มผู้ผลิตข้าวไรซ์เบอร์รี่ และผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่
เพื่อต่อยอดนำข้าวไรซ์เบอร์รี่ส่งจำหน่าย หรือสนใจนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และทำเป็นแบรนด์ตัวเอง พบกันได้ที่งาน โครงการ"เพื่อนพึ่ง(ภา) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ ก้าวไกล ระหว่างวันที่ 9-14 สิงหาคม 2559 @ Lifestly Hall ชั้น 2 สยามพารากอน
ท่านที่สนใจขอเชิญลงทะเบียนจับคู่ธุรกิจ ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคลิ้กที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ
“โครงการ เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ ก้าวไกล” ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ซึ่งภายในงานนี้จะมีการจัดนิทรรศการและตลาดอิ่มสุข ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันที่ 8-14 สิงหาคม 2559 ปัจจุบันหลายๆ คน โดยเฉพาะคนรักสุขภาพคงจะรู้จักข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นอย่างดีซึ่ง ไรซ์เบอร์รี่นั้นคือข้าวพันธุ์ดี ฝีมือคนไทย ซึ่งถูกวิจัยขึ้นโดยรองศาสตราจารย์ ดร.อภิชาต วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว หัวหน้าศูนย์พันธุกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรและเลขานุการศูนย์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรแห่งชาตินั่นเองการกำเนิดข้าวไรซ์เบอร์รี่นั้นเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์พ่อ และ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ที่เป็นพันธุ์แม่ โดยได้ลักษณะที่ดีและเด่นออกมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มีลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อไรซ์เบอร์รี่นั่นเอง

ข้าวไทยสีม่วงอย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่มีคุณประโยชน์ด้านโภชนาการมากมาย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงทั้งชนิดที่ละลายในน้ำและละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินอี แกมมา-โอไรซานอล โพลีฟีนอล แทนนิน เบต้าแคโรทีน โฟเลต โอเมกา-3 ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี และมีดัชนีน้ำตาลต่ำ-ปานกลาง โดยเฉพาะรำข้าวและน้ำมันรำข้าวนั้นก็มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดีสามารถนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเชิงบำบัด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด โรคสมองเสื่อม และบำรุงร่างกายชะลอความแก่ ได้เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เองข้าวไรซ์เบอร์รี่ จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์จะทำให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีคุณค่าทางโภชนาการในปริมาณสูงตามลักษณะพันธุ์มากที่สุด
โดยการจัดงานโครงการ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ ก้าวไกล” จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนการจัดนิทรรศการ และการจับคู่ธุรกิจ Business Matching และอีกหนึ่งส่วนแยกย่อย นั่นก็คือตลาดอิ่มสุข จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากหลากหลายสายพันธุ์มาให้เลือกซื้อกันอีกด้วย
ในส่วนการจัดนิทรรศการ จะมีทั้งส่วนของการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งจะนำเสนอพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าว ในรูปแบบพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชพิธีทำขวัญข้าว รวมไปถึงการนำเสนอพระราชกรณียกิจสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่เกี่ยวข้องกับข้าว เพื่อถ่ายทอดและสืบสานพระราชปณิธานจากอดีตถึงปัจจุบันจาก “สมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวงของปวงไทย” ถึง “แม่หลวงของแผ่นดิน” ทั้งยังเล่าประวัติความเป็นมา และความสำเร็จโครงการเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ ก้าวไกล ซึ่งในส่วนนี้จะมีการนำเสนอบุคคลตัวอย่าง เกษตรกร ผู้ประกอบการ และเครือข่ายของโครงการฯ ที่ได้รับความสำเร็จจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ในการประกอบอาชีพ และทำธุรกิจอีกด้วย

นอกจากนั้น ในส่วนของการจัดนิทรรศการ ยังมีส่วนที่สำคัญอีกสองส่วนนั่นก็คือส่วนของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่แบบสดๆ และส่วนของกิจกรรมเด่น (Highlight) ภายในงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไรซ์เบอร์รี่ Cooking, สาธิตผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ทุกประเภท, ไรซ์เบอร์รี่บอกเล่าเก้าสิบ, ไรซ์เบอร์รี่มิวสิคการ์เด้นและไรซ์เบอร์รี่นิวส์
ในด้านธุรกิจ นอกจากจะมีการจับคู่ธุรกิจ Business Matching เพื่อต่อยอดข้าวไรซ์เบอร์รี่สู่สากล แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการสัมมนา แนะนำให้ความรู้กับผู้ประกอบการในหัวข้อการวางแผนทางธุรกิจ การออกแบบแบรนด์ และแพคเกจ การตลาด และการตลาดออนไลน์ เพื่อให้นักธุรกิจไทยก้าวไกลทั่วโลก โดยงานทั้งหมดนี้จะถูกจัดขึ้นที่ LIFESTYLE HALL ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่กิจกรรมภายในงานยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีกิจกรรมดีๆ อย่างตลาดอิ่มสุข ที่จะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคต่างๆ จากทั่วประเทศมาให้ประชาชนที่เดินทางไปร่วมงานได้ช็อป ชิม ชิล กันอย่างมากมาย ที่ลาน Parc Paragon อีกด้วย

