การถูกนายทุนหลอกขายเมล็ดพันธุ์ราคาแพง
หรือการถูกหลอกให้ปลูกข้าวพันธุ์พิเศษแล้วไม่มารับซื้อตามสัญญา นับเป็นปัญหาที่ชาวนาไทยประสบกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในยุคที่ข้าวขาวราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรส่วนหนึ่งสนใจที่จะปลูกข้าวพันธุ์พิเศษอื่นๆ ด้วยแรงจูงใจอันเนื่องมาจากราคารับซื้อที่สูง แต่เกษตรกรเหล่านั้น ไม่เข้าใจคำจำกัดความของคำว่า ‘พรีเมียม’ จึงต้องประสบปัญหาขายผลผลิตไม่ได้ พวกเขาจะทำอย่างไร?
ในปัจจุบันนี้การค้าขายสินค้ามีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมากตั้งแต่เรามี Social Network สินค้าหลากหลายประเภท ถูกขายบน Facebook , Instagram , Line และในตอนนี้แม้แต้การขายข้าว ชาวนาไทยก็หันมาขายกันเองบน Facebook แล้ว โดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง มีหลายกรณี หลายตัวอย่าง ที่สามารถสร้างโอกาสได้อย่างมหาศาล
ตัวอย่างแรก เป็นชาวนาในจังหวัดพิษณุโลก ที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาสจากการที่ถูกนายทุนหลอกให้ปลูกข้าวหอมนิลแล้วไม่มารับซื้อตามสัญญา จึงนำข้าวดังกล่าวมาสีและบรรจุใส่ถุงพร้อมทำสติ๊กเกอร์ติดอย่างดี แล้วขายเองผ่านทาง Facebook ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดี มีลูกค้ามาสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันนี้ไม่ต้องขายข้าวผ่านพ่อค้าคนกลางแล้ว แต่ขายเองผ่าน Facebook เลย
อีกหนึ่งตัวอย่างเป็นของ คุณชัชชนะ ปรารถนารักษ์ ชาวนา จ.พิจิตร ที่ขายข้าวผ่านทาง Facebook มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เนื่องจากเกษตรกรรายนี้ ปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือดีต่อสุขภาพ และเมื่อปลูกแล้วก็ไม่อยากนำข้าวไปขายให้กับโรงสีหรือพ่อคนกลาง เพราะบางครั้งรู้สึกถูกกดราคา จึงหาวิธีที่จะจำหน่ายเอง ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่ Facebook กำลังได้รับความนิยม และตนเองก็เล่น Facebook เช่นกัน จึงลองนำข้าวที่สีแล้ว บรรจุถุงสุญญากาศแล้วโพสขายบน Facebook ส่วนตัวของตน ที่ใช้ชื่อว่า “ฟาร์มบ้านชัดเจนพิจิตร” โดยในระยะแรกก็มีผู้มาติดต่อสอบถามซื้อข้าว ตกวันละ 4-5 ราย ซึ่งจาก 4-5 รายก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆเติบโต จนปัจจุบันนี้ มียอดสั่งซื้อถึงเดือนละ 5,000 กิโลกรัม
เหตุที่การขายผลิตภัณฑ์ได้ เนื่องมาจากอะไร?
เมื่อชาวนาที่ปลูกข้าวเอง และนำมาจำหน่ายเอง มีการสร้างตัวตนด้วยการโพสข้อความหรือโพสรูปการทำนา รูปผลผลิต รูปสินค้า หรือรูปการส่งสินค้าให้ลูกค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้บริโภค มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจในความพยายามของเขา จนกลายเป็นลูกค้าไปในที่สุด (ที่มา ไอที 24 ชั่วโมง เปิดโลกไอที พลิกสู่ชีวิตที่ดีกว่า)
ตลาดข้าวไรซ์เบอร์รี่ออนไลน์
สำหรับข้าวไรซ์เบอร์รี่ หากค้นหาใน search engine อย่าง Google ก็จะพบว่ามี website ที่จำหน่ายข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดข้าวโภชนาการสูงในไทย สำหรับผู้บริโภคที่รักสุขภาพกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นผลมานอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์ข้าวโภชนาการสูง ภายใต้การควบคุมการผลิตของโรงสีธัญโอสถ-ธกส.-มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ทั้งหมด ปัจจุบันมีเกษตรกรและผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ทำการผลิตและจำหน่ายข้าวไรซ์เบอร์รี่และสินเหล็กด้วยตนเอง นอกเหนือการกำดูแล จึงนับว่ามีคุณค่าต่อการพัฒนาชาวนายุคใหม่ ที่นอกจากจะเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ยังเข้าใจกลไกการตลาดที่ทำให้ชาวนา ต้องเรียนรู้ว่า ความสามัคคีคือพลัง นั่นเอง