บทความ

งานวิจัยและองค์ความรู้

ข้าวดัชนีน้ำตาลต่ำ ดัชนีน้ำตาล คือ อะไร ?

ดัชนีน้ำตาลหรือ Glycemic index (GI) เป็นดัชนีวัดคุณภาพของคาร์โบไฮเดรตในอาหาร  การหาค่าดัชนีน้ำตาล โดยให้คนกินอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ต้องการศึกษา 50 กรัม แล้วติดตามว่าเมื่อกินแล้ว คาร์โบไฮเดรตที่ถูกย่อยและดูดซึมทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างไรในเวลา 2 ชั่วโมง โดยน้ำตาลกลูโคสมีค่าดัชนีน้ำตาลเท่ากับ 100 เมื่อรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง น้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงและเร็วกว่าอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ

 

ดัชนีน้ำตาล

ร้อยละ

ต่ำ

55 หรือ น้อยกว่า

กลาง

56 ถึง 69

สูง

70 หรือ มากกว่า

             

ในยุคที่คนไทยจะก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 จากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็วในยุค digital ทำให้คนไทยป่วยเป็นเบาหวาน, มะเร็ง, โรคหัวใจ, ความดันโลหิต และโรคไตมากขึ้น ในปี 2015 ประชากรโลกกว่า 1,000 ล้านคนและคนไทยมากกว่า 4 ล้านคนเป็นผู้ป่วยเบาหวาน และมากกว่า 2 ล้านคนที่อยู่ในระยะเริ่มต้น ทำให้ต้องมีภาระค่ารักษาพยาบาลไม่ต่ำกว่า 46,000 ล้านบาทต่อปี สาเหตุที่สำคัญ คือ การบริโภคอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง ซึ่งประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต แป้งและน้ำตาลสูงแต่มีเยื่อใยและสารต้านอนุมูลอิสระต่ำ เนื่องจากข้าวเป็นอาหารจานหลักของคนไทย ดังนั้นการพัฒนาพันธุ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ให้มีมีดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยป้องกัน และการแก้ไขอุบัติภัยของโรคเบาหวาน ในสังคม Thailand 4.0 และประชากรโลกได้

 

 

 

ข้าวหอมปิ่นเกษตร+4 ดัชนีน้ำตาลต่ำ

‘ปิ่นเกษตร+4’ เปรียบเทียบกับข้าวบัสมาติของอินเดีย ในอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี 24 คน พบว่า GI ของข้าว ‘ปิ่นเกษตร+4’ อยู่ระหว่าง 52-55 ในขณะที่ข้าวบัสมาติมี GI เท่ากับ 74    ส่วนค่ามวลน้ำตาล (GL) ของข้าว ‘ปิ่นเกษตร+4’ ที่ถูกเลือกมาทดสอบอยู่ระหว่าง 9.8-13.7 โดยที่ข้าวบัสมาติมี GL เท่ากับ 13.8  ดังนั้นข้าวปิ่นเกษตร+4 จึงเป็นข้าวไทยพันธุ์ใหม่ที่มี GI และ GI ต่ำ เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาเบาหวานและคนอ้วน นอกจากนี้อาหารจากแป้งข้าวซึ่งมีคุณสมบัติเป็น gluten free diet ยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเป็นอย่างมาก

 

ข้าวปิ่นเกษตร+4 จะเป็นความหวังของชาวนาในเขตชลประทาน ที่ต้องการพันธุ์ข้าวที่มีเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ  นอกจากนี้หากปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ จะช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชลงได้  งานวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ปิ่นเกษตร+4  ยังได้รับ เพื่อต่อยอดความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่จำกัด ได้แก่ อากาศร้อน หนาว ดินเค็ม และธาตุเหล็กเป็นพิษ เพื่อให้ข้าวพันธุ์ใหม่ มีศักยภาพการให้ผลผลิตได้ทุกสภาพการปลูก งานวิจัยชิ้นนี้นับเป็นต้นแบบการพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อความมั่นคงยั่งยืนทางสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม

บทความล่าสุด

ข่าวประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์ของเรามีการใช้คุกกี้ เพื่อให้ท่านได้รับการใช้งานเว็บไซต์ที่ดี แสดงผลได้ถูกต้อง หากคุณใช้งานเว็ปไซต์ของเราต่อถือว่าคุณยินยอมให้มีการใช้งานคุกกี้


© RICE SCIENCE CENTER, KASETSART UNIVESITY KAMPHAENG SAEN CAMPUS

เลขที่ 1 หมู่ที่ 6 ตำบล กำแพงแสน อำเภอ กำแพงแสน จังหวัด นครปฐม 73140 ประเทศไทย
ติดต่อแอดมิน anut.su@ku.th


  (+66) 086 479 5603


Free Joomla! templates by AgeThemes